วันที่เผยแพร่: 16 พฤศจิกายน 2559
"มีหลายคนถามเข้ามานะค่ะว่าศาสตร์การตั้งชื่อที่อ. ชัญให้ความสำคัญในการตั้งชื่อลูกมีอะไรบ้าง ไปติดตามอ่านกันเลยค่ะ . "
ตั้งชื่อลูก อย่างไรดีให้เป็นมงคล.......ถูกหลักนามศาสตร์
ปัจจุบัน กระแสการ ตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อมงคลนั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีบุคคลจำนวนมากเข้ามาสอบถาม อ.ชัญ เพื่อต้องการทราบว่า หากต้องการ ตั้งชื่อลูก ให้เป็นมงคลจะตั้งอย่างไรดี พ่อแม่หลายคนก็อยากได้ชื่อที่มีความไพเราะ ทันยุคสมัย และที่สำคัญคือถูกต้องตามหลักการตั้งชื่อมงคล โดยเฉพาะในความเชื่อคนไทยมีความเชื่อในเรื่องการใช้ชื่อที่เป็นมงคลกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งถ้าหากมีใครทักว่าชื่อของลูกคุณผิดหลักอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเหตุให้คุณแม่เกิดความไม่สบายใจอีก และต้องมาเปลี่ยนชื่อกันหลายรอบให้วุ่นวายในภายหลัง วันนี้ อ.ชัญ จะมาแนะนำหลักการที่จะเป็นต้องใช้ในการ ตั้งชื่อลูก กันนะค่ะ
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องศาสตร์การตั้งชื่อ อ.ชัญ ขอเกริ่นไปถึงเรื่องโหราศาสตร์กับพระพุทธศาสตร์นิดนึงนะค่ะ โดยทั่วไปหลักพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับกฎของการกระทำ หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า “กฎแห่งกรรม” เป็นหลักใหญ่ในผลต่าง ๆ ที่กระทบกับชีวิตของแต่ละคนมากที่สุด การที่คนแต่ละคนถูกส่งให้ไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของดวงดาวดวงไหนนั้น ในทางโหราศาสตร์นั้นเรียกว่าแผนที่แห่งกรรมที่ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทำนายทายทักกัน ซึ่งตามตำราโบราณโหราจารย์กล่าวว่า ทุก ๆ สิ่งในจักรวาลถูกควบคุมโดยอิทธิพลของดวงดาวต่าง ๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวอักษรที่เราใช้กันและเอามาตั้งชื่อด้วยก็มีอิทธิพลและส่งผลต่อชาตาชีวิตได้เช่นกัน
หลักการตั้งชื่อที่มีในปัจจุบันนั้นมีอยู่หลากหลายศาสตร์ แต่ศาสตร์ที่ อ.ชัญ ให้ความสำคัญและ ใช้ในการตั้งชื่อประจำนั้น มีอยู่ 5 ศาสตร์ดังนี้
1. "หลักมหาทักษา” เป็นศาสตร์พื้นฐานที่อาจารย์โหรโบราณมักใช้กัน โดยมีหลักการคือ คนที่เกิดในแต่ละวันจะมีตัวอักษรที่เป็นกาลกิณีวันเกิดแตกต่างกันไป ก็ให้หลีกเลี่ยงการใช้อักษรที่เป็นกาลกิณีมาใช้ เพราะอักษรที่เป็นกาลกิณีจะส่งผล ให้มีอุปสรรคปัญหาต่างๆ แก่เจ้าของชื่อนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ให้ใช้ชื่อที่หลีกเฃี่ยง อักษรที่เป็นกาลกิณี คือ ศ, ษ, ส, ห, ฬ, อ, ฮ
2. "หลักโหราศาสตร์ไทย" ถือเป็นสุดยอดวิชาในการตั้งชื่อ เนื่องจากเป็นศาสตร์ที่มีความลึกซึ้งและแม่นยำค่อนข้างสูงจึงถูกยกย่องว่าเป็นศาสตร์แห่งโหรไม่ใช่หมอดู โดยมีหลักการพิจารณา ลัคนา ดวงดาวที่ส่งผลดีในดวงชาตา มาตั้งเป็นชื่อเพื่อเป็นการส่งเสริมดวงชาตา และหลีกเลี่ยงดวงดาวที่เสียเพื่อเป็นการอุดจุดเสียของดวงชาตา
3. "หลักนวนามศาสตร์" เป็นศาสตร์ประยุกต์จากหลักโหราศาสตร์ไทยขั้นสูง โดยมีการเอาดวงนวางค์จักรซึ่งเป็นการบ่งบอกไส้ชาตาของดวงชาตาว่าดาวดวงใดส่งผลดีกับดวงชาตาอย่างแท้จริง ซึ่งจะส่งผลกับดวงชาตาไปถึงอายุ 70 ปีเลยทีเดียว แล้งจึงนำดาวที่ส่งผลดีมาตั้งอยู่ในชื่อ
4. "หลักเลขศาสตร์" เป็นศาสตร์ที่มีการถอดค่าตัวอักษรและพยัญชนะต่างๆจากชื่อออกมาเป็นตัวเลข และนำมารวมกันกัน จะได้ผลรวมของชื่อ หรือเลขศาสตร์ ซึ่งมีค่าของตัวเลขออกมาดีและไม่ดีแตกต่างกันไปตามการเลือกอักษรที่ประกอบลงไปในชื่อ โดยนิยมใช้กลุ่มเลขศาสตร์ที่มีความเป็นมงคลและเหมาะสมกับหน้าที่การงานเป็นสำคัญ เช่น หากทำงานเกี่ยวกับครูบาอาจารย์ก็ควรใช้ เลขศาสตร์ 14 (คู่วิชาการ) เป็นต้น
5."หลักอายตนะ ๖" เป็นศาสตร์ โบราณ ๖ เป็นการถอดค่าตัวเลขจากกำลังพระเคราะห์ของดาวต่าง ๆ โดยใช้หลักการพื้นฐานเดียวกับหลักภูมิทักษา ซึ่งตัวเลขต่างๆที่คำนวณออกมาได้ จะส่งผลต่อลักษณะจิตใจของเจ้าของชื่อ และความรู้สึกของบุคคลรอบข้างที่มีต่อจ้าของชื่อได้
ทราบกันไปแล้วนะค่ะกับศาสตร์การตั้งชื่อที่ อ.ชัญ ให้ความสำคัญนั้นมีอะไรบ้าง หากคุณต้องการตั้งชื่อลูก หรือ เปลี่ยนชื่อมงคลแล้ว นอกจากการคำนึงถึงความเป็นสิริมงคลของชื่อแล้วก็ควรจะคำนึงถึงชื่อที่มีความหมายดีๆ เป็นมงคลด้วยนะค่ะ เพราะการใช้ชื่อที่มีความหมายมงคลก็เป็นหัวใจในการตั้งชื่อเช่นเดียวกันค่ะ
บทความโดย
อ.ชัญ theluckyname “เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนชีวิต”
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการ “ตั้งชื่อลูก –ให้ฤกษ์มงคล”